รู้หรือไม่ สาเหตุรถสตาร์ตไม่ติด บางทีอาจเกี่ยวข้องกับเครื่องเสียงรถยนต์

Jump Start Network  > Lifestyle >  รู้หรือไม่ สาเหตุรถสตาร์ตไม่ติด บางทีอาจเกี่ยวข้องกับเครื่องเสียงรถยนต์
0 Comments
ประกัน ชั้น 1

ใครที่เพิ่งถอยรถใหม่ไม่นานมานี้ ก็คงจะคาดหวังว่าจะขับรถเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างราบรื่นไม่มีปัญหา แม้ว่ารถใหม่จะมีประกันชั้น 1 ไว้คุ้มครองดูแล แต่ทุกอย่างไม่มีอะไรแน่นอน อุบัติเหตุบนท้องถนนหรือแม้กระทั่งปัญหาที่ตัวรถนั้นเกิดขึ้นได้เสมอ ก่อนเดินทางทุกครั้ง จึงควรจะต้องมีการเช็กสภาพความพร้อมของรถและขับขี่อย่างไม่ประมาท ถึงจะทำให้เรามั่นใจในความปลอดภัยได้

ขณะที่เช็กสภาพรถ อาจมีกรณีรถสตาร์ตไม่ติดเกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่เมื่อวานก็ขับและใช้รถแบบปกติ แต่อยู่มาวันนี้รถสตาร์ตไม่ติดเสียอย่างนั้น แน่นอนว่าปัญหารถสตาร์ตไม่ติดนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าสาเหตุหนึ่งที่คนมักคาดไม่ถึงว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องรถสตาร์ตไม่ติดด้วยก็คือ มาจากเครื่องเสียงของรถยนต์ ถ้าใครมีการไปเปลี่ยนชุดเครื่องเสียงรถยนต์มา มีโอกาสที่ปัญหานี้จะเกิดขึ้นได้ มาดูรายละเอียดเรื่องนี้กัน

ปัญหารถสตาร์ตไม่ติดกับสาเหตุที่คาดไม่ถึง

อย่างที่เราทราบกันมาบ้างว่า สาเหตุที่รถสตาร์ตไม่ติดส่วนใหญ่มีปัญหาที่แบตเตอรี่ ซึ่งทำให้ระบบการจ่ายไฟไปใช้ในการสตาร์ตรถไม่เพียงพอ รถจึงสตาร์ตไม่ติด การที่แบตเตอรี่มีไฟไม่พอก็เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุอีกเช่นกัน อาจเกิดขึ้นเพราะแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ ไดชาร์จเสีย หรือแม้กระทั่งการเผลอเปิดไฟหรือระบบไฟในรถยนต์ทิ้งไว้ ก็เป็นเหตุให้ไฟในแบตเตอรี่ไม่เพียงพอได้

แต่สาเหตุส่วนใหญ่ที่หลายคนคาดไม่ถึงก็คือ การเปลี่ยนเครื่องเสียงติดรถยนต์ มีบางคนมีความสุขกับการฟังเพลงจากเครื่องเสียงดี ๆ ภายในรถยนต์ จึงมีการไปยกเครื่องเสียงใหม่มา ซึ่งหากเครื่องเสียงนั้นยิ่งมีระบบเสียงที่ดี ก็ย่อมต้องใช้กำลังไฟมากขึ้น แต่นั่นอาจไม่ใช่เรื่องที่ต้องเป็นห่วงหากการติดตั้งทำได้อย่างถูกต้อง เครื่องเสียงจะเล็กจะใหญ่ก็คงไม่ใช่ปัญหา สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็อยู่ตรงที่ความชำนาญในการติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์ของช่างนี่เอง

รถสตาร์ตไม่ติดเกี่ยวกับระบบเครื่องเสียงของรถอย่างไร

มีหลายกรณีให้เห็นมาแล้วว่า เจ้าของรถบางคน หลังจากรถของตนเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนมา จึงนำรถไปซ่อมเพราะมีประกัน ชั้น 1 ไว้อยู่แล้ว จึงค่อนข้างเบาใจเรื่องค่าใช้จ่าย และไหน ๆ จะซ่อมบางคนจึงคิดว่านำรถไปติดตั้งเครื่องเสียงใหม่ด้วยเลยทีเดียว แต่ปรากฏว่าช่างที่ทำระบบเครื่องเสียงมีการวางระบบสายไฟใหม่ได้ไม่ดี อาจจะผิดพลาดหรือไม่ชำนาญ ทำให้เครื่องเสียงมีการใช้ไฟฟ้าอยู่ตลอดเวลา แม้จะปิดเครื่องเสียงแล้ว ดับเครื่องยนต์แล้วกระแสไฟก็ยังคงวิ่งอยู่

ทีนี้พอไม่ได้ใช้รถสัก 4 – 5 วัน มาลองสตาร์ตรถอีกทีก็สตาร์ตไม่ติดแล้ว ตรงนี้ก็เพราะเครื่องเสียงรถมีการกินไฟจากแบตเตอรี่อยู่ตลอดเวลา ทำให้ไฟในแบตเตอรี่อ่อนลง ไม่เพียงพอต่อการสตาร์ตนั่นเอง

ดังนั้น จึงขอแนะนำทุก ๆ คนว่าไม่ว่าจะเปลี่ยนเครื่องเสียงใหม่หรือเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าใดที่ใช้ในรถ ควรเลือกทำจากศูนย์บริการที่มั่นใจและไว้ใจ เลือกอู่ที่เชี่ยวชาญในการดูแลรถยี่ห้อนั้น ๆ ไปเลยก็จะดีที่สุด ความผิดพลาดก็จะน้อยลง และไม่เพียงเรื่องของการเปลี่ยนอุปกรณ์เท่านั้น การซ่อมแซมรถจากกรณีอุบัติเหตุก็เช่นกัน ควรเลือกให้ดีก่อนว่าจะให้ที่ไหนช่วยแก้ไขดูแลรถให้เรา

สิ่งสำคัญที่อยากจะแนะนำทิ้งท้ายก็คือ หากเป็นไปได้อยากให้ทุกคนเลือกทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจไว้ด้วย เพราะส่วนนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคุณมากหากเกิดการเฉี่ยวชนหรือมีอุบัติเหตุขึ้น ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายลงไปได้เยอะจริง ๆ หากคุณสนใจอยากดูว่ามีโปรโมชั่นประกันชั้น 1 จากที่ไหนบ้าง สามารถดูรายละเอียดเปรียบเทียบประกันต่าง ๆ จากเว็บไซต์ EasyCompare ได้เลย ช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกสิ่งที่ใช่ได้ง่ายขึ้นแน่นอน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *